สำหรับคุณแม่ผ่าคลอด ควรให้ความสำคัญกับสารอาหารที่ลูกจะได้รับ เพราะโดยปกติแล้วเด็กที่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติ จะได้รับจุลินทรีย์สุขภาพจากช่องคลอดแม่ ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัมกันหลังจาคลอด แต่สำหรับคุณแม่ผ่าคลอด อาจเสียโอกาสการได้รับจุลินทรีย์ในช่องคลอด เนื่องจากแพทย์จะผ่านเละนำตัวเด็กออกมาผ่านทางหน้าท้อง ดังนั้นการดูแลเด็กผ่าคลอดจึงมีความแตกต่างตั้งแต่ช่วงขวบปีแรก ทั้งเรื่องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันรวมถึงการดูแลพัฒนาการทางสมอง เพื่อเตรียมพร้อมลูกสู่การเติบโตเป็นเด็กเจนใหม่ที่ฉลาดและมีความแข็งแรงนั่นเอง
กระตุ้นสมองเด็กผ่าดลอดเจนใหม่ให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ด้วยนมแม่ ที่มีสารอาหารหลากหลาย เช่น แอลฟาแล็ค และ สฟิงโกไมอิลิน
สมองของเด็ก โดยเฉพาะในช่วง 1000 วันแรก มีการพัฒนาไวแบบก้าวกระโดด ซึ่งจากงานวิจัย1 พบว่าสมองของของเด็กคลอดธรรมชาติ และเด็กผ่าคลอด มีการเชื่อมโยงการทำงานของเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วนที่แตกต่างกัน คุณแม่ผ่าคลอดจึงควรรีบส่งเสริมด้วยโภชนาการที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาสมองของถูกให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น โดยลูกควรได้รับนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดที่ลืมตาดูโลก เพราะในนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด และยังมีสารอาหารสำคัญต่อสมองอย่าง แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน ที่ช่วยสร้างสมองไวเพื่อการทำงานของสมองเด็กเจนใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ มีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับ การทำงานที่รวดเร็วของสมอง (FAST Processing Brain), การคิดพลิกแพลง (FLEXIBLE Brain) และ การสร้างสมาธิ (Brain FOCUS)
และอีกหนึ่งสารอาหารสมองที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือ สฟิงโกไมอีลิน เป็นไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิด จะพบมากในนมแม่ และที่เยื่อหุ้มเซลล์ประสาทในสมอง เป็นส่วนสำคัญในการสร้างปลอกไม่อีลิน ที่ช่วยให้สมองสามารถเชื่อมโยงติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว การได้รับอย่างเหมาะสม ลูกก็จะยิ่งมีความฉลาด สามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดี
เสริมภูมิคุ้มกัน ให้เด็กผ่าคลอดเจนใหม่มีความแข็งแรง ด้วยบี แล็กทิส
คุณแม่รู้ไหมว่า นอกจากเรื่องสมองของลูกแล้ว แม่ๆ ควรให้ความสำคัญกับเรื่องภูมิคุ้มกันด้วย สำหรับแม่ที่คลอดธรรมชาติลูกจะได้รับจุลินทรีย์สุขภาพผ่านช่องคลอด ซึ่งเป็นเหมือนกับเกราะซึ่งเป็นตัวช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันชั้นต้นมาแล้ว แต่สำหรับแม่ผ่าคลออดลูกจะไม่ได้รับจุลินทรีย์เหล่านี้ แม่ผ่าคลอดเด็กเจนใหม่ยุคนี้จึงควรเตรียมพร้อม ด้วยการเสริมจุลินทรีย์สุขภาพให้กับลูกรัก โดยหนึ่งในจุลินทรีย์ที่พบมากในนมแม่ ก็คือ บิฟิโคแบคทีเรียม แล็กทิส หรือ บี แล็กทิสมีส่วนสำคัญในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ลูกแข็กแข็งแรง ลดความเสี่ยงการเจ็บป่วย และพร้อมที่จะเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่
ดังนั้นการเตรียมพร้อมเด็กผ่าคลอด สู่การเป็นเด็กเจนใหม่ที่ฉลาด สมองดี ไหวพริบเยี่ยม และมีคุ้มกันกันที่แข็งแรงจึงสำคัญมาก คุณแม่ผ่าคลอดควรให้ลูกได้ดื่มนมแม่นานที่สุดตั้งแต่แรกเกิด เพื่อให้เขาได้รับสารอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะ แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน ที่ช่วยสร้างสมองไว และจุลินทรีย์สุขภาพอย่าง บี แล็กทิส ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะทำให้เด็กเจนใหม่มีพัฒนาการสมองที่ไว ร่างกายแข็งแรง และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ สนใจข้อมูลเพิ่มเติม เข้าชมได้ที่ S-Mom Club ที่เว็บไซต์ https://www.s-momclub.com/ และสามารถสมัครสมาชิกเพื่อปรึกษาทีมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถปรึกมา พูดคุย
เกี่ยวกับสุขภาพโภชนาการและพัฒนาการสำหรับคุบคุณแม่และลูกน้อยตามช่วงวัย ได้ที่ Line Open Chat S-Mom Club
Reference:
- Deoni S.C., et al. AJNR Am J Neuroradiol. 2019 Jan;40(1): 169–177.
- Bentley J, et al. Pediatrics. 2016; 138:1-9.
- Polidano C, et al. Sci Rep. 2017; 7: 11483.
- Susuki K. Nature Education. 2010;3(9):59.
- Floch MH,et al.J Clin Gastroenterol 2015;49:S69-S73
- สภาการศึกษา
- National Institutes of Health (US); Biological Sciences Curriculum Study.
- Alpha Lactalbumin - an overview | ScienceDirect Topics
- Susuki, K. (2010) Nature Education 3(9):59Deoni S, 2012.
- Dai X, et al, 2019.
- Kar P, et al. Neuroimage. 2021 Aug 1:236:118084.
- Department of Mental Health (dmh.go.th)
- Horwood LJ et al. Arch Dis Child Neonatal Ed 2001; 84: F23-F27.
- Generation Beta starts in 2025: 5 things to know - ABC News
- “เด็กเจนแอลฟา” (เด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2010 - 2024) และเด็กเจนเบต้า (เด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2025-เป็นต้นไป)
Generation Beta starts in 2025: 5 things to know - ABC News
