เทคนิคสอนการบ้านลูก

การสอนการบ้านให้ลูกถือเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของพ่อและแม่ เพราะคงจะไม่ดีอย่างแน่นอนถ้าหากปล่อยให้ลูกทำการบ้านโดยลำพัง ไม่มีผู้ปกครองคอยบอกสอน อาจจะทำให้ลูกไม่เข้าใจและทำผิดได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วการสอนการบ้านมักจะทำให้พ่อแม่หลายคนเกิดความโมโหและจบด้วยการทะเลาะเบาะแว้งจนไม่สามารถสอนการบ้านให้ลูกได้ ซึ่งจะสอนการบ้านอย่างไรให้ลูกสนุกและอยากทำการบ้านมากขึ้น วันนี้เรามี 8 เทคนิคมาแนะนำรับรองได้ว่าจะทำให้การ สอนการบ้านลูก เป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกขึ้นอย่างแน่นอน

เทคนิคสอนการบ้านลูก 8 ข้อ

เมื่อลูกถึงวัยเข้าโรงเรียนแน่นอนว่าจะต้องมีการบ้านกลับมาทำที่บ้านทุกวัน การสอนการบ้านจึงเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของพ่อและแม่จะต้องคอยดูแล โดยจะ สอนการบ้านลูก อย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดดราม่าและเสียน้ำตา วันนี้เรามี 8 เทคนิคดีๆ มาแนะนำจะมีเทคนิคอะไรกันบ้างมาดูกันเลยค่ะ

1.สอนให้สนุก

คุณแม่ก็ย่อมรู้ดีว่าลูกของตนชอบการเรียนการสอนแบบไหน หรือลูกชอบวิชาไหนมากเป็นพิเศษ คุณแม่ควรปรับการสอนให้เข้ากับลูก เช่น หากลูกชอบวิชาคณิตศาสตร์และบางครั้งอาจจะเจอข้อยากๆ คุณแม่ควร สอนลูก อย่างใจเย็นและสอนแบบสนุกๆ ไม่ทำให้บรรยากาศน่าเบื่อ วิธีนี้จะเป็นวิธีจูงใจเด็กทำให้สนุกและอยากทำการบ้านมากขึ้น

2.ชมลูกบ้างเพื่อเป็นกำลังใจ 

คำชมเล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งที่ลูกอยากได้ยินจากคนเป็นพ่อเป็นแม่ เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ลูกทำการบ้านได้ คุณแม่ควรให้คำชมกับลูกๆ เช่น เก่งมากเลยลูก, ข้อนี้ยากนะหนูทำได้เก่งมากเลย เป็นต้น เพื่อให้ลูกมีกำลังใจในการทำการบ้าน ตรงกันข้ามหากลูกทำการบ้านผิดคุณแม่ก็ควรค่อยๆ สอนไม่ดุหรือตีลูกด้วยความรุนแรง เพราะจะยิ่งทำให้ลูกเกลียดการทำการบ้าน หรือไม่อยากให้คุณแม่สอนการบ้านอีกต่อไป

3.ไม่ใช้อารมณ์ในการสอนลูก

เวลา สอนการบ้านลูก คุณแม่ไม่ต้องทำหน้าดุควรมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มเพื่อไม่ให้ลูกเกิดความกลัวหรือกดดัน เพราะการทำการบ้านมีผลต่อการปลูกฝังทัศนคติในการทำการบ้านของลูก ลูกจะเห็นว่าการทำการบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนของลูกในอนาคต

4.ให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ

ของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งที่สร้างกำลังใจให้กับเด็กๆ ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อลูกทำการบ้านเสร็จหรือสามารถแก้โจทย์ได้ คุณแม่ควรมีของรางวัลเป็นการตอบแทนให้ลูกไม่ว่าจะเป็นการหอมเพื่อให้รางวัลหรือจะให้ขนมที่ลูกชอบเป็นของรางวัลก็ได้ วิธีนี้จะสร้างแรงบันดาลใจทำให้ลูกอยากพยายามทำการบ้านให้สำเร็จเพื่อที่จะได้รางวัลจากคุณพ่อคุณแม่

5.มีช่วงเวลาพักให้

การทำการบ้านในแต่ละครั้งแน่นอนว่าจะต้องใช้เวลานาน หากวันไหนลูกมีการบ้านเยอะคุณแม่ควรให้เวลาพักทำการบ้านให้ลูกบ้าง เพื่อให้ลูกๆ ได้ผ่อนคลายและไม่กดดันมากเกินไป ซึ่งช่วงเวลาพักควรไม่เกิน 1 ครั้งเพื่อให้ลูกมีวินัยในการทำการบ้านและไม่ให้เสียเวลา สอนลูก นานจนเกินไป

6.เข้าใจธรรมชาติของเด็ก

คุณพ่อคุณแม่หลายคนไม่เข้าใจธรรมชาติของเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในช่วงที่เรียนอนุบาล พ่อแม่หลายคนคิดว่าลูกวัยนี้ควรคัดลายมือหรืออ่านหนังสือออกได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงของลูกวัยนี้เป็นวัยที่ไม่จำเป็นจะต้องเรียนรู้มากถึงขนาดนั้น ควรค่อยเป็นค่อยไป เพราะพ่อแม่หลายคนมีความคาดหวังกับลูกมากเกินไป กังวลว่าลูกจะเรียนไม่ทันเพื่อน ไม่เก่งเหมือนคนอื่นจึงเกิดการกดดันลูกให้ลูกเรียน แต่ความจริงแล้ววัยนี้ลูกควรได้รับอิสระมีเวลาเล่นได้ผ่อนคลายตามวัยของเขามากกว่า

7.จัดสภาพแวดล้อม

เมื่อ สอนการบ้านลูก คุณแม่ควรเลี่ยงสิ่งที่จะทำลายสมาธิของลูก สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของลูก อย่างเช่น ทีวี หรือที่ที่มีเสียงดังมากเกินไป มีผู้คนเดินไปมา หรือมีสัตว์เลี้ยงมารบกวน ควรสร้างสิ่งแวดล้อมให้สงบเหมาะแก่การเรียนเพราะจะทำให้ลูกมีสมาธิกับการบ้านมากขึ้น 

 8.จัดการเวลา

คุณแม่ควรจัดเวลาให้เหมาะสมในการ สอนการบ้านลูก เพื่อให้ทำเป็นกิจวัตรและช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสอนการบ้านก็คือช่วงเวลาหลังอาหารเย็น และควรจัดหาเวลาอ่านหนังสือให้ลูกเพื่อทบทวนความรู้เพิ่มเติม ไม่ควรสอนการบ้าน ดึกจนเกินไป จะทำให้ลูกง่วงนอนและไม่อยากทำการบ้านได้

สอนการบ้านลูกแล้วอารมณ์เสียทุกที ควรรับมือยังไง

คุณแม่หลายคน สอนการบ้านลูก ทีไรกลายเป็นนางยักษ์ขึ้นมาทุกที เพราะไม่เข้าใจธรรมชาติของเด็กหรือเกิดความคาดหวังกับลูกมากไปเมื่อลูกไม่เป็นอย่างที่ใจต้องการเลยเกิดอารมณ์โมโหขึ้นมา วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ รับมืออย่างไรในการ สอนการบ้านลูก แล้วไม่ให้อารมณ์เสีย จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

• ใช้กฎใจลูกใจเรา หากลูกมีอารมณ์หงุดหงิดและไม่สามารถทำการบ้านได้หรือเริ่มบ่นว่ายากและไม่อยากทำต่อ คุณแม่ไม่ควรไปตำหนิลูกหรือพูดในเชิงลบ แต่ควรให้กำลังใจพูดปลอบโยน เช่น ข้อนี้มันยากไปจริงลูก เดี๋ยวแม่ช่วยสอนให้ลูกเข้าใจก่อนและเมื่อลูกเข้าใจลูกทำต่อนะ การพูดแบบนี้จะช่วยให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและอยากทำการบ้านมากขึ้น
• อารมณ์เสียอย่าเพิ่งสอนการบ้าน การใช้อารมณ์กับลูกไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเพราะมักจะจบด้วยความเสียใจและน้ำตาของลูกเสมอ และคุณแม่เองก็จะเก็บมาเสียใจภายหลัง และยังทำให้บรรยากาศในบ้านเสียอีกด้วย คุณแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกควรรู้จักวิธีจัดการกับความโกรธ เพราะฉะนั้นเมื่อรู้สึกหงุดหงิดไม่สบายใจอย่าเพิ่ง สอนการบ้านลูก ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามควรออกไประงับสติอารมณ์ความโกรธให้ดีเสียก่อน เมื่อใจเย็นขึ้นค่อยกลับมา สอนลูก ใหม่

และนี่คือ 8 เทคนิคดีๆ ในการ สอนการบ้านลูก อย่างมีความสุขและทำให้ลูกๆ อยากทำการบ้าน การสอนด้วยความใจเย็นไม่ใช้อารมณ์เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรทำ เพราะนอกจากจะช่วยให้ลูกๆ สนุกกับการทำการบ้านแล้ว ยังทำให้บรรยากาศในบ้านดีขึ้นอีกด้วย

บทความแนะนำเพิ่มเติม

1.เทคนิคการสร้างวินัยให้ลูกตามช่วงวัย

2. 1. เทคนิคการชมลูก ชมอย่างไรลูกไม่เหลิง

3. เคล็ดลับสอนลูกให้ฉลาด สอนลูกให้มีระเบียบวินัย สอนลูกให้เก่ง

เรียบเรียงโดย    : Mamaexpert Editorial Team