“ภูมิคุ้มกัน” คุณแม่คงได้ยินคำนี้บ่อยๆ ไม่ว่าจากแพทย์หรือคนรอบข้าง ยิ่งช่วงที่คลอดลูกใหม่ๆ มักมีคนมาชอบพูดว่า “อย่านะ! อย่าเพิ่งพาลูกออกนอกบ้าน ภูมิคุ้มกันลูกยังไม่ดี”  คงเคยเจอมาแบบนี้กันใช่ไหมคะ แล้วคุณแม่สงสัยกันไหมว่าภูมิคุ้มกันนั้นสำคัญกับลูกมากน้อยแค่ไหน และหากอยากส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูกจะทำได้อย่างไร วันนี้ Mamaexpert มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ

ภูมิคุ้มกันสำคัญต่อเด็กอย่างไร เรื่องนี้แม่ต้องรู้!!!

รู้ไหมคะว่า ภูมิคุ้มกันมีความสำคัญต่อเด็กๆ อย่างมาก เพราะภูมิคุ้มกันเปรียบเสมือนตัวทำลายเชื้อโรค ป้องกันเชื้่อโรคที่จะเข้ามาทำร้ายร่างกายหรือสร้างความเจ็บป่วยให้กับลูกน้อย ซึ่งภูมิคุ้มกันนั้นทารกได้รับจากแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และจนคลอดออกมาถึง 6 เดือนแรก ลูกก็ยังได้รับภูมิคุ้มกันจากแม่ ซึ่งช่วงนี้จะพบว่าเด็กไม่ค่อยป่วยบ่อย แต่หากพ้น 6 เดือนไปแล้ว ภูมิคุ้มกันที่ได้จากแม่นั้นจะหายไป นอกจากนี้แล้วหากลูกมีภูมิคุ้มกันที่ไม่ดีอาจเป็นตัวขัดขวางพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกอีกด้วย ดังนั้นแล้วแม่ๆ จึงต้องเร่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยค่ะ

5 วิธีง่ายๆ ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้กับเบบี๋

ภูมิคุ้มกันที่ดีย่อมทำให้ลูกมีร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยบ่อย การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเบบี๋จึงเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ มาค่ะแม่ๆ มาส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูกด้วย 5 วิธีนี้ค่ะ

1. ดื่มนมแม่ ในช่วงแรกเกิดจนถึง 6 เดือน ทางการแพทย์ต่างแนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว เพราะนมแม่มีระบบการสร้างน้ำนมแบบ “อะโพไครน์” ทำให้มีสารอาหารครบถ้วนจากธรรมชาติ นมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด⁽¹⁾ เพียงพอกับความต้องการของทารก ไม่ว่าจะเป็น DHA, AA, วิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด มีพรีไบโอติกช่วยให้ระบบย่อยอาหารของลูกดี ไร้ปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อ มีโกรทแฟคเตอร์ที่ช่วยเสริมสร้างเจริญเติบโตของร่างกาย และโปรตีนต่างๆ ที่ช่วยสร้างและกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ลูกมีพัฒนาการที่สมวัย
2. ดื่มนมแพะ คุณแม่คงคุ้นเคยกับนมแพะมาบ้างแล้ว แต่รู้ไหมคะว่านมแพะนั้นเป็นนมที่มีภูมิคุ้มกันเช่นเดียวกับนมแม่ และมีสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน ดังนี้

• นิวคลีโอไทด์ ในนมแพะมีนิวคลีโอไทด์ 5 ชนิด นอกจากจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกไม่เจ็บป่วยแล้ว ยังช่วยลดการแพ้ รวมทั้งป้องกันเชื้อแบคทีเรียและไวรัสในระบบทางเดินอาหารอีกด้วย
• ทอรีน สารอาหารที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของจอประสาทตาให้ดีขึ้น
• โกรทแฟคเตอร์ เป็นตัวที่ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย จึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงตามวัย
• โพลีเอมีนส์ เป็นตัวช่วยลดการแพ้และช่วยให้ระบบทางเดินอาหารสมบูรณ์
• อินนูลินและโอลิโกฟรุคโตส เป็นพรีไบโอติกหรือใยอาหาร 2 ชนิด จากนมแพะซึ่งช่วยทำใ้ห้ระบบทางเดินอาหารมีความสมดุล ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องผูก และช่วยลดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของลูกดีตามไปด้วย
• โปรตีนในนมแพะเป็นโปรตีนที่ย่อยและดูดซึมได้ง่าย หรือที่เรียกว่าเบต้าเคซีน ซึ่งมีปริมาณที่มากกว่านมวัวถึง 2 เท่า⁽²⁾ เมื่อดื่มนมแพะจึงทำให้ลูกน้อยสบายท้อง ลำไส้ทำงานได้ดี หมดปัญหาท้องอืดตามมาค่ะ
• โปรตีนในนมแพะช่วยลดโอกาสเกิดการแพ้ นมแพะมีโปรตีนก่อแพ้หรือเบต้าแลคโตกลอบูลิน เป็นโปรตีนขนาดใหญ่ ย่อยได้ยาก ตกค้างในลำไส้และก่อให้เกิดการแพ้ แต่ในนมแพะนั้นมีโปรตีนตัวนี้ในปริมาณที่น้อยกว่านมวัว 23% เด็กที่ดื่มนมแพะจีงมีโอกาสแพ้น้อยกว่าเด็กที่ดื่มนมวัว เรียกได้ว่าทั้งโพลีเอมีนส์และเบต้าแลคโตกลอบูลิน มีส่วนช่วยลดอาการแพ้รวมทั้งช่วยให้ระบบทางเดินอาหารของลูกทำงานได้ดี ภูมิคุ้มกันก็ดีตามไปด้วย
• นมแพะมีโปรตีน CPP หรือที่เรียกว่า Casein Phosphopeptides เป็นโปรตีนที่ช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุต่างๆ เข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม สังกะสี แมกนีเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  
  นอกจากนี้ นมแพะยังมีสารอาหารที่ช่วยให้การพัฒนาสมองอย่าง DHA และ ARA  เรียกได้ว่าสารอาหารจากนมแพะนั้น ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกได้อย่างดี ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากนมแพะมีกระบวนการผลิตน้ำนมแบบเดียวกับนมแม่ หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อว่า “อะโพไครน์” จึงทำให้นมแพะมีสารอาหารและมีภูมิคุ้มกันเหมือนกับนมแม่

3. ฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต้านทานกับเชื้อโรคได้ ซึ่งในเด็กแรกเกิดจะได้รับวัคซีนป้องกันวัณโรคและตับอักเสบบีทันที และตามมาด้วยวัคซีนอื่นๆ เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดทั้งเซลล์ ทั้งนี้คุณแม่ต้องพาลูกไปฉีดวัคซีนให้ครบตามที่แพทย์สั่งเพราะการฉีดวัคซีนจะได้ผลดีนั้น ต้องฉีดให้ครบและตามวันที่แพทย์นัดหมาย
4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เนื่องจากเด็ก 6 เดือนขึ้นไปสามารถรับประทานอาหารได้แล้ว คุณแม่ควรเน้นอาหารที่ทานได้ง่าย ย่อยง่าย บดละเอียดตามช่วงวัย และมีสารอาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันที่มีโปรตีนช่วยสร้างกล้ามเนื้อ สร้างเนื้อเยื่อและฮอร์โมน ข้าวบดฟักทองปลาทู ข้าวตุ๋นตับหมู ข้าวบดตับไก่ และซุปหัวหอมที่ช่วยต้านหวัด นอกจากนี้ควรให้ลูกทานผลไม้เพื่อให้ได้รับแร่ธาตุและวิตามินที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง เช่น ส้ม มะละกอสุก เป็นต้น
5. พักผ่อนให้เพียงพอ รู้ไหมคะว่าการพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นสามารถทำให้ร่างกายอ่อน ภูมิคุ้มกันไม่ดี เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีจึงต้องพักผ่อนให้เพียงพอเพราะการนอนหลับลึกสามารถช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลของร่างกายในการย่อยอาหาร⁽³⁾ รวมถึงช่วยให้ร่างกายหลั่ง growth hormone ฮอร์โมนที่ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตสมวัย ดังนั้นต้องให้ลูกพักผ่อนให้เพียงพอตามช่วงวัย เช่น เด็กแรกเกิด 0 - 3 เดือน ต้องให้นอน 14 - 17 ชั่วโมงต่อวันและอาจนอนหลับได้มากถึง 18 - 19 ชั่วโมงต่อวัน⁽⁴⁾

เห็นไหมคะว่า 5 วิธีที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นวิธีง่ายๆ แต่ละวิธีนั้นต่างมีความสำคัญช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูกเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าพลาดไม่ได้สักวิธี!!! โดยเฉพาะการให้ลูกดื่มนมแม่ และควรให้ลูกดื่มนมแม่นานที่สุดนะคะ เพราะนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองและร่างกายของลูก รวมทั้งมีภูมิคุ้มกันที่ช่วยต้านทานโรค

ภูมิคุ้มกันของร่างกายเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ควรมองข้าม เพราะหากภูมิคุ้มกันไม่ดีย่อมนำพาความเจ็บป่วยมาได้เสมอ ดังนั้นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยจึงเป็นเรื่องที่คุณแม่ต้องเร่งทำด้วย 5 วิธีข้างต้น และที่ลืมไม่ได้เลย ควรให้ลูกดื่มนมแม่ให้นานที่สุดหรือดื่มนมที่มีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอย่างนมแพะในทุกวันๆ เพื่อให้ลูกรักแข็งแรง พัฒนาการสมวัย ช้าไม่ได้นะคะ เพราะเชื้อโรคมีอยู่รอบตัว ด้วยความห่วงใยจาก Mamaexpert

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team

อ้างอิง

1. อาภาวรรณ โสภณธรรมรักษ์.สร้างภูมิคุ้มกันลูกน้อยด้วย ‘นมแม่’.เข้าถึงได้จาก http://pesc.pw/KMFWK.[ค้นคว้าเมื่อ 23 กรกฎาคม 2562]
2. ประโยชน์ของนมแพะ.เข้าถึงได้จาก http://pesc.pw/KQH6Z.[ค้นคว้าเมื่อ 23 กรกฎาคม 2562]
3. พญ.รัตโนทัย พลับรู้การ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี.สุขนิสัยการนอน ช่วยพัฒนาเด็กได้อย่างไร.เข้าถึงได้จาก http://pesc.pw/KRLRK.[ค้นคว้าเมื่อ 23 กรกฎาคม 2562]
4. สมาคมโรคจากการหลับแห่งประเทศไทย.สารพันปัญหาการนอนหลับ.เข้าถึงได้จาก http://pesc.pw/KGYE2.[ค้นคว้าเมื่อ 23 กรกฎาคม 2562]
5. 5 ประโยชน์จาก “นมแพะ” ที่ช่วยให้ลูกรักมีภูมิคุ้มกันดี แข็งแรงสมวัย.เข้าถึงได้จาก http://pesc.pw/KW3J6.[ค้นคว้าเมื่อ 23 กรกฎาคม 2562]
6. ดร.ผกากรอง วนไพศาล.น้ำนมแม่ ประโยชน์อเนกอนันต์.เข้าถึงได้จาก http://pesc.pw/GTTLM.[ค้นคว้าเมื่อ 23 กรกฎาคม 2562]
7. ตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย.เข้าถึงได้จาก http://pesc.pw/K8P5R.[ค้นคว้าเมื่อ 23 กรกฎาคม 2562]