พัฒนาการเด็ก 4 เดือน และวิธีกระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสม

13 February 2018
81553 view

พัฒนาการเด็ก 4 เดือน

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

พัฒนาการเด็ก 4 เดือนเป็นอย่างไร 

ดูเหมือนอยู่ๆ ลูกก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่เอาแต่กินกับนอน (กับร้องกวน) ก็กลายเป็นเด็กเรียบร้อย น่ารักขึ้น ทักทายเล่นกับคนอื่นๆมากขึ้น ผมที่ดูบางหรอมแหรม ก็เริ่มจะมีผมจริงของเขาขึ้นมาแซมมากขึ้น แต่ยังต้องคอยอีก 1- 2 เดือนที่จะเห็นได้ชัด ซึ่งคุณแม่สามารถติดตามและสังเกตได้ดังนี้

  •  ตอนปลายเดือนที่ 4 จะเห็นว่า ลูกมีความสามารถในการใช้มือและเท้าได้มากขึ้น เขาจะเริ่มหัดพลิกตัวกลับไปมา และบางครั้งกว่าจะรู้ว่าลูกทำได้ คุณก็พบว่าลูกได้ตกเตียงลงมาแล้ว ลูกจะดูจ้ำม่ำขึ้น เนื้อแน่น อุ้มแล้วเมื่อยมือ เพราะเขาจะดิ้น ถีบตัวไปมาบ้างตามอารมณ์ ขณะนอนคว่ำเขาจะสามารถยกศีรษะขึ้นได้ดี และยกอกพ้นพื้นได้นานขึ้น เมื่อนอนหงาย เขาจะสามารถหันศีรษะได้ 180 องศา มองตามคุณได้ตลอด และเกร็งคอ ผงกศีรษะตามขึ้นได้
  • เมื่อคุณทำท่าจะมาอุ้มเขาขึ้น หรือเมื่อคุณเอานิ้วมือของคุณให้เขาจับ และพยายามเหนี่ยวตัวเขาขึ้น เขาจะสามารถดึงตัวเขาขึ้นมาได้เอง โดยที่คอไม่อ่อน และศีรษะไม่ห้อยตกไปด้านหลัง ลูกจะแสดงท่าทางดีใจ และอยากเล่นกับผู้คนมากขึ้น เขาจะเตะถีบขาทั้งสอง และปัดมือไปมา รวมทั้งสามารถยกขามาให้มือเขาจับได้ ในบางรายอาจจะเริ่มเห็นเด็กทำท่าเหมือนว่ายบก นั่นเป็นการเริ่มต้นของการหัดคืบ และคลานของเด็ก
  • รอยยิ้มอย่างดีใจจะเปิดกว้าง สำหรับคนที่เขาชอบและคุ้นเคย เขาจะชอบที่จะทำเสียงเลียนเสียงคุณ ถ้ามีคนคุยด้วยกับเขา เขาจะส่งเสียงโต้ตอบมากขึ้น และเล่นสนุกอยู่ได้นาน คุณอาจรู้สึกว่า ลูกมีน้ำลายไหลมาก อาจเป็นจากการที่มีการสร้างน้ำลายมากขึ้น และเด็กยังไม่รู้จักการกลืนน้ำลายนัก ทำให้หน้าของเขาเริ่มมีผื่นขึ้น จากการเปื้อนน้ำลาย และอาหารที่เขาทาน
  •  ลูกจะสามารถได้ยินเสียงต่างๆได้ดีเหมือนผู้ใหญ่ และจะแสดงท่าทางว่า เขาสามารถแยกแยะชนิดของเสียงได้ เช่น เสียงคุณแม่ เสียงดนตรี หรือ เสียงดังน่าตกใจ เขาจะมีสีหน้าที่แตกต่างกัน เมื่อมีเสียงเหล่านี้ขึ้น ลูกจะสนุกกับการที่มีคนเล่นด้วย ดังนั้นของเล่นที่จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการที่ดีสำหรับเขาก็คือ การให้คนที่อยู่ใกล้กับเขา คอยเล่นกับเขานั่นเอง เช่นกันลูกจะมองเห็นได้ดีขึ้นและไกลขึ้น ประมาณ 12 ฟุต แต่เขาก็จะยังให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเขามากกว่า และจะเอามือคว้าของที่เขาเห็น และเอาเข้าปาก
  •  เวลานอนของลูกก็จะดีขึ้น ส่วนใหญ่จะเริ่มนอนหลับได้ยาวตลอดคืน คุณจะสามารถดูว่าลูกง่วงนอนหรือไม่ โดยการสังเกต การหาว, การเซื่องลงไม่อยากเล่น หรือ การเริ่มขยี้ตา เกาหู ตาปรอย และหลับไปในที่สุด
  • ในช่วงอายุ 4-6 เดือนเต็ม คุณหมอก็มักจะแนะนำให้คุณเริ่มอาหารเสริม ดีที่สุดควรเริ่มเมื่ออายุ 6 เดือน ซึ่งจะต้องดูว่าลูกพร้อมที่จะกลืนเป็นหรือยัง เด็กบางคนอาจจะยังกลืนไม่เก่ง และจะชอบเอาลิ้นดุนอาหารออกมา หรือทำท่าติดคอ ขย้อนอาหารออก ซึ่งถ้าเป็นดังนั้น ก็ควรจะรอไปก่อน และพยายามใหม่ในอีก 1-2 อาทิตย์ต่อมา ไม่ควรพยายามบังคับป้อนให้ทานจนได้
  • ควรระมัดระวังเรื่องการแพ้สารอาหาร  ด้วย โดยทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารทะเลทุกชนิด โดยเฉพาะพวกที่มีเปลือกหุ้ม เช่น กุ้ง ปู และปลาหมึก รวมทั้ง ไข่ขาว เพราะจะเกิดการแพ้อาหารประเภทนี้ได้ง่าย (ถ้าคุณมีประวัติแพ้ค่อนข้างมาก ควรปรึกษาแพทย์ เรื่องเหล่านี้ก่อนเริ่มอาหารเสริมให้ลูก) ควรเริ่มให้ทีละอย่าง และทีละน้อย ไปหลายวัน ก่อนที่จะสรุปว่า ลูกไม่แพ้สารอาหารชนิดนั้นๆ เนื่องจากตอนนี้ การป้อนอาหารเสริม มีเป้าหมายเพียงให้เขารู้จักรสชาดของอาหารอื่น นอกจากนม และเป็นการฝึกการกลืนเท่านั้น
  • คุณพ่อคุณแม่ ควรให้เวลากับลูก พูดคุยและเล่นกับลูกทุกวัน แม้ว่าตอนนี้ คุณแม่หลายคนจะต้องกลับไปทำงานแล้ว ลูกจะเริ่มรู้ว่า คุณกับตัวเขาก็ไม่ใช่ว่าจะต้องตัวติดกันตลอดไป และบางครั้งสิ่งที่เขาต้องการ ก็ไม่สามารถจะเรียกร้องได้จากคุณแม่ เขาจะเริ่มมองหาทางเล่นกับคุณ และเริ่มฝึกฝนการใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายเขาได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาการขั้นต่อไปของเขา

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่

1. วิธีที่ช่วยให้ลูกคุณแม่หลับง่ายกว่าที่เคย

2. ปัญหาลูกตื่นกลางคืนบ่อยแก้ไขอย่างไร?

3. พัฒนาการเด็ก 5 เดือน และวิธีกระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสม

เรียบเรียงโดย  : Mamaexpert Editorial Team