เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 27 ม.ค. พ.ต.ท.สมเดช สกุณา พนักงานสอบสวน สภ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน บริเวณถนนริมคลองชลประทานสาย 1 หมู่ 10 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี จึงประสานไปยังหน่วยดับเพลิงเทศบาลตำบลท่ายางร่วมนำรถดับเพลิงสนับสนุน พร้อมนำกำลังรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว หน้าบ้านเปิดเป็นร้านค้าสะดวกซื้อ พบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยฯ กำลังระดมฉีดน้ำเข้าไปบริเวณต้นเพลิงซึ่งอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ทราบชื่อเจ้าของบ้าน คือ นายประสิทธิ์ เซียงหลิว อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 1 ต.ดอนขุนห้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วเสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นพบว่ามีรถจักรยานยนต์ 1 คัน ถังแก๊ส 2 ถัง และทรัพย์สินมีค่าที่อยู่ภายในบ้าน สร้อยคอทองคำ พระ สิ่งของภายในร้าน รวมทั้งอุปกรณ์ทางการเกษตรที่ซื้อมาใหม่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

จากการสอบถาม นายประสิทธิ์ เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนและครอบครัวได้ทำพิธีไหว้เจ้าเนื่องในวันตรุษจีน ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยก่อนที่จะเดินทางออกไปทำธุระข้างนอกก็ได้ตรวจสอบความเรียบร้อยแล้วว่าธูปเทียนที่ไหว้เจ้านั้นดับหมดแล้ว จึงได้เดินทางออกไปทำธุระประมาณ 20 นาที เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เห็นเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านอย่างรวดเร็ว จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้ง 191 เพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว

ด้านนางรัตน์ เซียงหลิว เผยว่า บ้านที่เกิดเหตุปลูกติดอยู่ริมถนน เปิดเป็นร้านเลี่ยมกรอบพระและร้านขายของชำ ก่อนเกิดเหตุได้ทำพิธีไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีนตามประเพณีที่เคยทำทุกปี เมื่อไหว้ในบ้านที่เกิดเหตุเสร็จ ได้ดับเทียน เหลือเพียงธูป 3 ดอก ที่ตั้งไว้แล้วเดินไปไหว้ตรุษจีนในบ้านอีกหลังที่อยู่ด้านใน หลังจากนั้น ก็ต้องตกใจเมื่อเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง คาดว่าน่าจะเกิดจากการจุดธูปทิ้งไว้ แต่ทั้งนี้ที่ผ่านมาทุกปีก็ทำเช่นนี้มาตลอด แต่ก็ไม่เคยเกิดเหตุขึ้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุดังกล่าวอาจจะเกิดจากธูปเทียนที่จุดไหว้เจ้าแล้วดับไม่สนิท ทำให้เกิดเป็นไฟลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ส่งผลให้ไหม้ทรัพย์สินที่อยู่ใกล้เคียงและลุกลามไปไหม้บ้านดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะประสานไปยังตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในการเกิดเหตุในครั้งนี้ต่อไป

ที่มา : ข่าวสด