เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 ธ.ค ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากน.ส.ขนิษฐา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี บ้านอยู่ ต.นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ว่าลูกชายถูก “ไอ้มอม” สุนัขจรจัดกัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในพื้นที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ชุมชนค่ายหลวง เขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจับสุนัขไป จึงรุดตรวจสอบข้อเท็จจริง
น.ส.ขนิษฐา พร้อมด้วยนายธันยากร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้เป็นสามี กำลังอุ้มด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 4 ขวบ ที่บริเวณใบหน้าด้านซ้ายมีผ้าก๊อซพันแผลปิดไว้ เมื่อเปิดออกดูพบว่ามีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ แผลกลางกระหม่อม และแผลยาวตั้งแต่คิ้ว ขมับ ไปจนถึงกราม นอกจากนั้นยังมีรอยบาดแดผลคมเขี้ยวฝังบริเวณหัวไหล่ซ้าย โดยน.ส.ขนิษฐาระบุว่าสุนัขที่กัดเป็นสุนักจรจัดสายพันธุ์ไทย เพศผู้ สีน้ำตาล ไม่ทราบอายุ ชื่อ “ไอ้มอม” ซึ่งยังคงนอนเล่นอยู่ที่บ้านที่เกิดเหตุ ไม่ได้หลบหนีไปไหน
น.ส.ขนิษฐา เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. ตน สามี และด.ช.บี ได้เดินทางจากบ้านพักมาช่วยจัดปลัมพิธีงานไหว้ครูประจำปีที่บ้านของเพื่อน ส่วนด.ช.บีได้วิ่งเล่นอยู่กับกลุ่มเด็กด้วยกันประมาณ 10 กว่าคน โดยมีไอ้มอมเดินวนเวียนอยู่ภายในบริเวณบ้าน จนกระทั่งช่วงเย็น ไอ้มอมกระโดดเข้ากัดด.ช.บีจนล้มคว่ำแล้วกัดขย้ำที่บริเวณศีรษะและใบหน้าอย่างไม่ยั้ง ด.ช.บีร้องลั่นจนชาวบ้าน ตนและสามีหันไปดูก็พบว่าลูกชายถูกไอ้มอมกัด จึงรีบวิ่งไปไล่ แล้วนำตัวลูกส่งโรงพยาบาลบ้านโป่ง เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
เมื่อทำการตรวจพบว่ามีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง แพทย์ต้องเย็บบาดแผลทั้งภายในและภายนอก รวมแล้วกว่า 100 เข็ม โดยจุดสำคัญที่แพทย์เป็นห่วงคือบริเวณขมับ ที่คมเขี้ยวฝังลึกเข้าไปจนเกือบถึงเส้นประสาท ซึ่งแพทย์แจ้งว่า หากโดนเข้าถึงจะส่งผลทำให้คิ้วตก ปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท หรือถึงขั้นตาบอด
น.ส.ขนิษฐา เล่าต่อว่า ไอ้มอมได้เข้ามานอนอยู่ในบริเวณบ้านหลังเกิดเหตุแล้วหลายปี ไม่มีใครเป็นเจ้าของ กลุ่มเด็กๆ จึงได้ตั้งชื่อว่า ไอ้มอม โดยก่อนหน้านี้ ไอ้มอมเคยกัดเด็กในละแวกบ้านจนบาดเจ็บมาแล้วหลายครั้ง ชาวบ้านได้ช่วยกันวางยาสลบแล้วจับไปปล่อยห่างจากบ้านหลาย 10 กิโลเมตร แต่ไอ้มอมก็สามารถเดินกลับมาบ้านได้ทุกครั้ง จนกระทั่งเหตุการณ์ล่าสุดที่กัดด.ช.บี ทั้งนี้ ตนจึงอยากวิงวอนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยจับไอ้มอมไปไว้ในที่ที่เหมาะสม จะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นอีกต่อไป