ดูแลลูกก่อนวัย Teen ฉบับครอบครัวมือโปร

25 June 2019
2045 view

เมื่อลูกน้อยเริ่มเติบโตเข้าสู่ช่วงวัยประถม หรืออายุประมาณ 6-12 ปี เรียกว่าเป็นช่วงที่มีเรื่องราวไม่ซ้ำ วีรกรรมสนุกเพียบใช่ไหมล่ะคะ แล้วยังโตเร็วจนบางครั้งคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างเราก็ไม่ทันสังเกต อย่างเช่น เผลอแปบเดียวชุดที่เคยหลวมก็เริ่มคับ กางเกงก็เริ่มขาลอย เพราะส่วนใหญ่ลูกๆ ที่อยู่ในวัยนี้มักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่โรงเรียน ซึ่งบางครอบครัวก็ปรับตัวไม่ทัน ไม่รู้ว่าจะรับมือลูกน้อยที่เติบโตและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้อย่างไร เราหยิบประเด็นสำคัญๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจ และเตรียมความพร้อมให้เด็กๆ มาฝากกันค่ะ

1. พ่อแม่ต้องเข้าใจ ว่าเป็นช่วงวัยแห่งความพยายาม

ทุกอย่างจะดูใหม่ และท้าทาย เป็นวัยที่เด็กจะเริ่มรู้จักการอดทน ฝึกฝนและพัฒนาความสามารถในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น ทั้งการเรียนรู้วิชาต่างๆ ที่โรงเรียน การหัดเล่นกีฬา หรือกิจกรรมงานอดิเรก ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ จนเริ่มเกิดความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ จากความพยายามจนกลายเป็นการเริ่มสร้างและสะสมความมั่นใจ และภูมิใจในตัวเอง เราจึงควรปล่อยให้ลูกๆ ได้รู้ได้ลอง จนเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยไม่โอ๋และยื่นมือเข้าไปช่วยซะทุกอย่าง

เพราะในทางกลับกันหากเด็กวัยนี้ได้รับประสบการณ์แห่งความสำเร็จน้อยเกินไป อาจทำให้เขาไม่เห็นคุณค่าของความพยายามและรู้สึกด้อยค่าได้ จนกลายเป็นเด็กที่ขาดความมั่นใจในอนาคต

2. ต้องเริ่มให้รับผิดชอบเรื่องส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่ และรับผิดชอบงานส่วนรวมเป็นบางส่วน

พื้นฐานของความรับผิดชอบเริ่มได้จากการดูแลเรื่องส่วนตัวของตัวเองที่สามารถฝึกได้ตั้งแต่วัยนี้เลยค่ะ อย่างการจัดกระเป๋าไปโรงเรียน อาบน้ำ แต่งตัวซึ่งอาจรวมไปถึงการให้เด็กๆ ได้มีสิทธิ์เลือกและตัดสินใจเลือกชุดที่จะใส่ด้วยตัวเอง เริ่มสร้างวินัยการจัดของใช้ให้เป็นระเบียบ อย่างการเก็บที่นอน และวางของให้เป็นที่ รวมไปถึงทักษะการแก้ปัญหาง่ายๆ

ส่วนงานส่วนรวมนั้น อย่างเช่นงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ช่วยคุณแม่จัดโต๊ะอาหาร รินน้ำให้คุณพ่อ หรือรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านก็เป็นการฝึกการรับผิดชอบต่อส่วนรวม และฝึกความมีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่นอีกด้วยค่ะ

3. ใช้คำถามเชิงสร้างสรรค์ ดีกว่าการสั่งให้ทำตามคำบอก

เป็นไหมคะ เวลาลูกทำอะไรที่ไม่ถูก หรือซนเกินเบอร์เรามักใช้คำสั่ง หรือดุให้เขาหยุดการกระทำทันที ซึ่งก็ได้ผล เด็กก็จะหยุดการกระทำนั้นและอาจเกิดเป็นความกลัวไม่กล้าทำอีก แต่ในระยะยาวถ้าเราไม่อธิบายหรือบอกเหตุผลว่าทำไมตัวเขาเองต้องหยุดการกระทำนั้น เด็กจะไม่เข้าใจและกลายเป็นกลัวและหวาดระแวงแทน จนไม่กล้าตัดสินใจได้

กลับกันถ้าเราใช้เวลาอีกหน่อยในการค่อยๆ อธิบายหรือตั้งคำถามเชิงสร้างสรรค์ เช่น ถ้าเด็กๆ ทำห้องรก แทนที่เราจะดุว่า “ดูซิ !! ทำไมปล่อยให้ห้องรกขนาดนี้ หัดเก็บให้เป็นที่หน่อย” เปลี่ยนเป็น “หนูรู้ไหม หนูจะสามารถเจอของเล่นตัวโปรดของหนูได้ง่ายๆ เลยนะจ๊ะ ถ้าเก็บของเป็นที่ หนูจะเลือกเก็บของสำคัญแบบนี้ไว้ตรงไหนดีจ๊ะ” เป็นต้น เพื่อกระตุ้นความคิด ให้ลูกๆ รู้จักประโยชน์ของการกระทำนั้นแทน และในอนาคตหากต้องมีการตัดสินใจ เด็กจะค่อยๆ ฝึกหา และเปรียบเทียบเหตุผลที่เหมาะสมได้มากขึ้น

4. สนับสนุนการออกกำลังกาย และเล่นกีฬาตามสไตล์ที่ลูกถนัด

เรื่องนี้ก็สำคัญมากเช่นกันที่เราต้องคุยกับลูกอยู่ตลอด แม้ว่าเราจะคิดว่ากีฬาประเภทไหนจะช่วยให้ลูกแข็งแรงที่สุด เพราะไม่ใช่เด็กทุกคนจะชอบว่ายน้ำ หรือขี่จักรยานตามความต้องการของพ่อแม่ เราสามารถแนะนำหรือลองเล่นกีฬาชนิดต่างๆ กับลูกเป็นครั้งๆ ก่อนได้ โดยต้องไม่ลืมถามลูกรักของเราความรู้สึกอย่างไร สนุกไหม มีความสุขหรือเปล่า อยากพัฒนาขึ้น อยากเก่งขึ้นด้านนี้ไหมก่อนที่จะเลือกส่งลูกเรียนเป็นคอร์สระยะยาว เพราะเมื่อลูกได้มีสิทธิ์ร่วมในการตัดสินใจ ฝึกสำรวจความคิดความรู้สึกของตัวเอง ก็ถือเป็นการช่วยฝึกความรับผิดชอบที่ดีอย่างหนึ่งเลยทีเดียว

5. เลือกสารอาหารที่ใช่ ดีพอให้ร่างกายใช้ในการเติบโต

ในวัยที่เด็กๆ มักติดขนม ชอบของหวาน และเริ่มเลือกทานอาหารตามใจปากจนบางครั้งก็ละเลยสารอาหารสำคัญของร่างกายไป คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจและช่วยเลือกอาหารที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์และเหมาะสำหรับการเจริญเติบโตต่อไปในช่วงวัยรุ่น เริ่มจากให้ลูกๆ ได้ลองอาหารที่หลากหลายทีละน้อย อย่าง หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ เพิ่มส่วนผสมผักใบเขียวลงในอาหารโปรดของลูก รวมถึงการเสริมวิตามินที่มีประโยชน์ให้กับร่างกาย อย่างวิตามินซี ที่นับเป็นวิตามินสำคัญในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้เด็กๆ แข็งแรงไม่ป่วยง่าย ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ต้องรับจากอาหารที่ทานเข้าไปเท่านั้น C-vitt เครื่องดื่มวิตามินซี 200% สูตรน้ำตาลน้อย คุณภาพญี่ปุ่น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ในการเสริมวิตามินซีเข้มข้นให้ของลูกๆ แข็งแรงได้ทุกวัน

เพื่อให้แน่ใจว่าลูกรักในวัยกำลังเติบโตจะได้รับวิตามินซีมากเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในทุกวัน C-vitt เครื่องดื่มวิตามินซี 200% สูตรน้ำตาลน้อยกว่า สูตรเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมเติมวิตามินซีคุณภาพดีให้ลูกๆ ทุกวัน และใหม่ล่าสุด C-vitt mini วิตามินซีสูง พกพาสะดวกในรูปแบบกล่อง มีให้เลือก 2 รสทั้ง เลมอน และออเร้นจ์  สามารถหาซื้อ C-vitt mini ง่ายๆ ได้ที่ จิฟฟี่ ท้อปส์ แมคโคร และร้านค้าทั่วไปใกล้บ้าน สำหรับประโยชน์สาระวิตามินซีเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ทาง www.facebook.com/Cvitt.vitaminC

#Cvittminiวิตามินซีสูงพกพาสะดวก