เดือนแรกที่รู้ว่าตั้งครรภ์ นอกจากเรื่องบำรุงครรภ์แล้ว สิ่งที่คุณแม่มือใหม่มักจะหาข้อมูลอยู่เสมอ คือเรื่องวิธีการคลอดลูก และคุณแม่หลายคนกังวลไม่น้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ การคลอดเป็นเรื่องที่คุณแม่ไม่สามารถกำหนดเองได้ เพราะอยู่ที่ภาวะสุขภาพของแม่และทารกในครรภ์ สูติแพทย์จะเป็นผู้แนะนำว่าคุณแม่ต้องคลอดแบบไหน แต่จากการศึกษาพบว่า คุณแม่ควรคลอดธรรมชาติยกเว้นผู้ที่มีข้อบ่งชี้ว่าต้องผ่าคลอด การผ่าคลอดนอกจากคุณแม่จะฟื้นตัวยากกว่าแล้ว ยังพบว่าอาจส่งผลต่อภูมิต้านทานตั้งต้นของลูกด้วย ซึ่งภูมิต้านทานตั้งตนเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ Mamaexpert ชวนว่าที่คุณแม่มาล้วงเรื่องไม่ลับกับ12 เรื่องของทารกผ่าคลอด ตามมาค่ะ
12 เรื่องไม่ลับกับเด็กผ่าคลอด
การผ่าตัดคลอด (Caesarean section) คือ การผ่าที่บริเวณส่วนท้องของมารดา เพื่อให้ทารกในครรภ์คลอด มักทำเมื่อการคลอดทางช่องคลอดอาจเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพหรือชีวิตของมารดาหรือเด็ก แม้ในปัจจุบันจะมีการผ่าท้องทำคลอดตามความประสงค์ของมารดามากขึ้น องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าการผ่าคลอดควรทำต่อเมื่อมีความจำเป็นทางการแพทย์เท่านั้น โดยปกติแล้วการผ่าคลอดจะใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง และ 12 เรื่อง ต่อไปนี้คุณแม่ที่กำลังจะผ่าคลอดต้องรู้
1. การผ่าคลอด เป็นทางออกสำหรับแม่ที่ไม่สามารถคลอดธรรมชาติได้ หรือมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ เช่น ลูกตัวใหญ่เกินกว่าที่จะคลอดปกติ รกเกาะต่ำ อยู่ในตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการขวางทางออกในการคลอด หรือคุณแม่ตั้งครรภ์แฝดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป สรีระของคุณแม่ไม่พร้อม กระดูกเชิงกรานเล็กเกินไป สายสะดือสั้นเกินไป และความไม่พร้อมทางด้านร่างกายหลายอย่างของสุขภาพแม่ หรือแม้แต่การคลอดในภาวะฉุกเฉินก็เช่นกัน
2. ทารกผ่าคลอดจะนอนโรงพยาบาลนานกว่าทารกที่ผ่านการคลอดธรรมชาติ เนื่องจากต้องรอให้คุณแม่ฟื้นตัวก่อน โดยประมาณแล้วทารกผ่าคลอดจะอยู่รพ. 3 - 4 วัน ในขณะที่ทารกคลอดธรรมชาติอยู่รพ. 2 - 3 วันเท่านั้น
3. การผ่าคลอดไม่ส่งผลต่อระบบประสาทและสมองของทารกแต่อย่างไร คุณแม่หลายคนเข้าใจผิดอยู่มากจึงเก็บไปวิตกกังวล ทารกผ่าคลอดมีพัฒนาการเทียบเท่าทารกคลอดธรรมชาติ
4. การผ่าคลอดอาจส่งผลต่อภูมิต้านทานของลูกน้อยถึง 30% ทารกผ่าคลอดมีภูมิตั้งต้นน้อยกว่าทารกคลอดธรรมชาติ เพราะทารกผ่าคลอดไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพ ที่มีอยู่มากในช่องคลอดแม่
5. มีผลการวิจัยยืนยันว่าทารกที่ผ่าคลอดมีโอกาสเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทาน มากกว่าเด็กคลอดธรรมชาติ
6. ทารกผ่าคลอดเสี่ยงต่อการมีภูมิต้านทาน ( Immune deficiencies ) อ่อนแอเพิ่ม 46%
7. ทารกผ่าคลอดเสี่ยงต่อการเป็นโรคหอบหืด (Asmha ) เพิ่มขึ้น 23% ซึ่งโรคหอบหืดในเด็กนั้นอาจมีอันตรายถึงชีวิต
8. ทารกผ่าคลอดเสี่ยงต่อโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (inflammatory bowel diseases ) เพิ่มขึ้น 20%
9. ทารกผ่าคลอด พบบิฟิโดแบคทีเรีย ในลำไส้ ( Bifidobacteria colonization ) น้อยกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ ซึ่งบิฟิโดแบคทีเรีย (bifidobacteria) เป็นจุลินทรีย์สุขภาพหรือโพรไบโอติกชนิดหนึ่งซึ่งสามารถปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย ซึ่งเป็นการส่งเสริมภูมิต้านทานได้เป็นอย่างดี
10. เด็กผ่าคลอด มีโอกาสได้รับนมแม่ช้ากว่าเด็กคลอดธรรมชาติ เพราะคุณแม่หลังผ่าคลอดมักมีอาการปวดแผลมากกว่าคุณแม่คลอดธรรมชาติ คุณแม่คลอดธรรมชาติสามารถให้นมลูกได้ภายใน 1 ชั่วโมงหลังคลอด แต่คุณแม่ผ่าคลอดต้องนอนในห้องสังเกตอาการหลังผ่าคลอด( Recovery room ) ก่อนจนกว่าสัญญาณชีพจะปกติ แต่สำหรับโรงพยาบาลที่ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างจริงจัง จะนำทารกมาดููดนมแม่หลังผ่าคลอดให้เร็วที่สุด กรณีที่แพทย์ตรวจเช็คว่าสัญญาณชีพคุุณแม่ปกติ ทั้งนี้คุณแม่ผ่าคลอดสามารถตะแคงให้ลูกดูดนมได้
11. คุณแม่ผ่าคลอดต้องเร่งคืนเสริมภูมิต้านทานตั้งต้นให้ลูกน้อยที่ผ่าคลอดด้วยการให้ดูดนมแม่ เพราะน้ำนมแม่มีองค์ประกอบที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานหลายชนิด รวมทั้ง โพรไบโอติกหรือ จุลินทรีย์สุขภาพ และ พรีไบโอติก หรือ อาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ
12. เด็กผ่าคลอดควรได้รับจุลินทรีย์สุขภาพโพรไบโอติกในปริมาณมาก เพื่อเร่งคืนภูมิต้านทานตั้งต้น เนื่องจากเด็กผ่าคลอดไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพผ่านทางช่องคลอดของคุณแม่แบบที่เด็กคลอดธรรมชาติได้รับ
หากจำเป็นต้องผ่าคลอดจะเร่งคืนภูมิต้านทานให้ลูกได้อย่างไร
คุณแม่ที่มีความจำเป็นต้องผ่าคลอดไม่ต้องกังวล เพราะคุณแม่สามารถเร่งคืนภูมิต้านทานตั้งต้นให้กับลูกได้ ด้วยการให้ลูกได้รับ น้ำนมแม่ตั้งแต่วันแรกที่คลอด
นมแม่คือโภชนาการที่ดีที่สุดสำหรับลูก มีซินไบโอติกที่ประกอบด้วย จุลินทรีย์สุขภาพโพรไบโอติก และใยอาหารพรีไบโอติก ซึ่งจะช่วยพัฒนาระบบภูมิต้านทานในลำไส้ของลูกน้อยให้แข็งแรง เสริมสร้างภูมิต้านทานตั้งต้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้อย่างสมวัยในทุกๆ วัน
หากคุณแม่มีคำถามเกี่ยวกับการผ่าคลอดและภูมิต้านทานตั้งต้นของลูกน้อยผ่าคลอด อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก คุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับการผ่าคลอดรวมทั้งโภชนาการที่เหมาะสมต่างๆ และพบ 12 คำถาม- คำตอบเพิ่มเติมเพื่อแม่ยิ่งรู้ ลูกผ่าคลอดยิ่งพร้อม เพื่อลูก #ผ่าคลอดก็พร้อมได้
คลิกที่นี่ https://www.hifamilyclub.com/c-section/c-question
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ซินไบโอติก”ในนมแม่ และจุลินทรีย์สุขภาพโพรไบโอติก คลิก ที่นี่ https://www.hifamilyclub.com/c-section/CA6Synbiotic-Csection