แม่ของเด็กวัย 2 ขวบ กล่าวว่า ระหว่างที่ตนไปทำกับข้าวอยู่ในครัว และปล่อยให้ลูกอยู่กับ นายไก่ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี สามี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของลูก จากนั้นสามีตะโกนบอกว่าลูกกินขนมแล้วติดคอ
นายไก่ บอกพยายามเอานิ้วมือล้วงคอ เพื่อจะเอาขนมออกจากลำคอขณะที่ใช้นิ้วมือล้วงเอาขนมออกจากคอ ลูกได้กัดนิ้วมือจนเป็นแผล จึงพยายามจะเอาน้ำกรอกปาก เพื่อให้ขนมไหลลงคอ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จนกระทั่งเด็กหมดสติ ญาติพี่น้องจึงได้ส่งลูกไปโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
การช่วยเหลือเมื่อเด็กสำลักสิ่งแปลกปลอม
การช่วยเหลือที่ถูกต้อง ลดการเสียชีวิตโดยเฉพาะในเด็กเล็กสิ่งสำคัญในการช่วยเหลือเด็ก ที่สำลักวัตถุของแข็งคือ ไม่ควรรีบใช้มือหยิบจับ หรือดึงของออกมาจากปากเด็ก เพราะนิ้วมืออาจไปกดทับสิ่งของที่อยู่ด้านใน และทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นบวมขึ้นและบางครั้งอาจดันทำให้สิ่งแปลกปลอมนั้นอุดกั้นทางเดินหายใจมากขึ้น การช่วยเหลือในเบื้องต้นจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อคุณมั่นใจว่า มองเห็นวัตถุสิ่งแปลกปลอม แล้วเปิดปากเด็กหยิบวัตถุออกมา การช่วยเหลือที่ถูกต้องควรช่วยเหลือเด็กดังนี้
1.กรณีเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กโตช่วยเหลือผู้ป่วยโดยในผู้ใหญ่ หรือเด็กโต ให้ทำในท่านั่งหรือยืนโน้มตัว ไปทางด้านหน้าเล็กน้อย ผู้ช่วยเหลือเข้าทางด้านหลัง ใช้แขนสอดสองข้างโอบผู้ป่วยไว้ มือซ้ายประคองมือขวาที่กำมือวางไว้ที่ใต้ลิ้นปี่ ดันกำมือขวาเข้าใต้ลิ้นอย่างรวดเร็วเพื่อให้เกิดแรงดันในช่องท้อง ดันเข้าใต้กระบังลมผ่านไปยังช่องทรวงอก เพื่อดันให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกจากกล่องเสียง
2.กรณีเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี ให้เใช้วิธีตบหลังหรือใช้ฝ่ามือวางลงบนทรวงอก แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดลงบริเวณใต้ลิ้นปี่
3.หากไม่มั่นใจ ให้รีบส่งโรงพยาบาลเร็วที่สุด เพราะหากเนิ่นนานทำให้สมองพร่องออกซิเจนได้ การที่สมองพร่องออกซิเจนเป็นเวลานาน ทำให้กลายเป็น เจ้าหญิง เจ้าชาย นิทราได้
การเลี้ยงเด็กประมาทไม่ได้เเม้แต่วินาทีเดียว คุณพ่อ คุณแม่ต้องระมัดระวังให้มากๆ และควรศึกษาวิธีช่วยชีวิตในภาวะฉุกเฉินต่างๆไว้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมก่อนถึงมือแพทย์ ค่ะ
ขอบคุณข่าว : ไทยรัฐ
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editoriak Team