ความฉลาดของลูกส่วนหนึ่งมาจากพ่อแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถกำหนดได้ว่า ลูกควรได้ความฉลาดจากพ่อหรือแม่มากน้อยเท่าไหร่ แต่ความฉลาดของลูกคุณพ่อคุณแม่สามารถเพิ่มพูนได้ หลังจากลูกคลอดออกมา และควรเพิ่มความฉลาด ของลูกให้ถูกทาง ซึ่งปัจจัยหลักในความฉลาดของลูก มีดังนี้
3ปัจจจัยหลักที่ทำให้ลูกฉลาดมากน้อยแตกต่างกัน
1.ปัจจัยด้านพันธุกรรม
พันธุกรรมเป็นปัจจัยแรกของความฉลาด ซึ่งปัจจัยนี้เด็กๆ ทุกคนจะได้รับมาตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อนฝังอยู่ในครรภ์คุณแม่เพราะเป็นการถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกในระดับยีนส์สอดคล้องกับผลงานการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ ด้านประสาทวิทยาอังกฤษ ชี้ผลวิจัยพบความฉลาดของคนเราสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มของยีนส์นั่นเอง
2.ปัจจัยด้านโภชนาการ
สารอาหารมีความสำคัญต่อสมองของลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์เพราะมีส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์สมองที่มีประสิทธิภาพ สารอาหารที่สมองต้องการเป็นพิเศษ เช่นกรดไขมันโอเมก้า 3 หรือ DHA ซึ่ง DHA เป็นส่วนประกอบในเนื้อสมองมากถึง 65% มีผลต่อระบบการทำงาน ของสมอง และระบบจอประสาทตา รวมทั้งโอเมก้า3 ช่วยปกป้องการทำงานของหัวใจ ให้เป็นไปตามปกติ
ซึ่งอาหารที่พบในโอเมก้า 3 มากก็คือ ปลาทะเล ปลาน้ำจืด บางบ้านมีปัญหา ลูกเบื่ออาหารที่จะพบมากในเด็กวัย3 -10 ขวบ เพราะสนใจการเล่นมากกว่าการกิน ลูกเบื่ออาหารเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารบำรุงสมองได้ คุณแม่อาจเลือกตัวช่วยเพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่มี DHA สูงๆ รสชาติอร่อยทานง่ายในท้องตลาดมีหลากหลายแบรนด์ เช่น Bain Syrup ข้อดีของผลิตภัณฑ์นี้ที่คุณแม่นิยมให้น้องๆ ทานคือเป็นวิตามินไซรัปที่อุดมไปด้วย DHA จากน้ำมันปลาทูน่าสูงถึง 70% พร้อม Omega3 และ Vitamin A , D , E , B12 ช่วยบำรุงสมองและสายตา (เหมาะสำหรับน้องๆ ที่ใช้สายตา บ่อยๆ) และกำลังอยู่ ในวัยเรียนรู้กระตุ้นความอยากอาหารให้เด็กได้ดี เสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วย เป็นน้ำมันปลาทูน่าเข้มข้นมาในรูปแบบไซรัปหอมๆ ไม่คาว รสผลไม้รวม อร่อย ทานง่าย อีกทั้งยังมีแบรนด์ Xtend Life หรือแบรนด์ Springleaf Kids เป็นน้ำมันปลาอีกผลิตภัณฑ์ ซึ่งมี DHA และ Omega3 ช่วยในเรื่องบำรุงสมองให้กับน้องๆ เช่นกันทั้งสองแบรนด์หลัง อาจจะเหมาะกับน้องๆ ที่สามารถทานน้ำมันปลารูปแบบแคปซูลเจลได้
หากคุณแม่จำเป็น ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรให้เมื่อคิดว่าต้องการดูแลในเรี่องใดเป็นพิเศษ หรือลูกต้องการเสริมในเรื่องของอะไร ในปริมาณที่เหมาะสม ที่สำคัญให้น้องรับประทาน อาหารให้หลากหลายควบคู่ไปด้วย
3.ปัจจัยด้านการเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อม
การเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ดูแลให้ลูกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เลือกการเรียนรู้ผ่าน เทคโนโลยีต่างๆ อย่างถูกต้องและมีวินัย ส่งเสริมให้ลูกเล่นอย่างเต็มที่ตามช่วงวัย รวมถึงส่งเสริมการเรียนและความถนัดของลูกด้วย
จะเห็นว่าปัจจัยหลักของความฉลาดทั้ง3ด้านนั้นล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับคุณพ่อคุณแม่โดยตรง Mamaexpert จึงนำเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกให้สมองไบรท์ เข้าใจและเรียนรู้ สิ่งต่างๆรอบตัวได้ดีสมวัย ดังนี้
เทคนิคช่วยสมองไบรท์ เข้าใจอะไรเร็วกว่าปกติ
- พ่อแม่สร้างความอบอุ่นในครอบครัว การแสดงออกซึ่งความรักของพ่อแม่มีผลทำ ให้เด็กหลั่งสาร " Human Growth Factor" ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมองหากน้องๆ ได้รับความรักความอบอุ่นก็จะยิ่งรู้สึกดีและกล้าที่จะมีปฏิสัมพันธ์ต่อสิ่งต่างๆ รอบตัวโดยไม่รู้สึกหวาดกลัว
- ดูแลให้ลูกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ไม่ขาดไม่เกิน ที่สำคัญคือ การรับสารอาหาร DHA โอเมก้า 3 , ไอโอดีน,โปรตีน,ไขมันดีหรือวิตามิน เกลือแร่ ต่างๆหากไม่สามารถ เตรียมอาหาร ให้ลูกได้ครบถ้วน อาจใช้วิตามินเสริมใน ปริมาณที่ พอเหมาะ เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากน้ำมันปลาทูน่าช่วยบำรุงสมอง และสายตา
- ให้ลูกมีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ สถานที่ต่างๆ หรือแม้แต่หน้าจอซึ่งปัจจุบันเราต้องปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจจะควบคุมเวลาให้ลูกในการใช้สื่อต่างๆเพราะอาจจะส่งผลต่อจอประสาทตาของลูกได้ หากลูกจำเป็นต้องอยู่กับหน้าจอแนะนำให้เพิ่มสารอาหาร บำรุงจอประสาทตาให้กับลูกด้วย เช่น วิตามิน A, DHA ลูทีนและซีแซนทีน
- ส่งเสริมการการเล่นของลูก โดยไม่ต้องมีกฎเกณฑ์ เล่นโดยอิสระเพราะการเล่นของเด็กจะทำให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุขแต่ควรเลือกของเล่น หรือสถานที่ที่มีความปลอดภัย
- คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นนักอ่านนักเล่าที่ดี การอ่านซึ่งจะช่วยสร้างจินตนาการ ส่งผลต่อความคิดสมองได้พัฒนาและช่วยพัฒนาสมองในด้านการใช้ภาษาและการสื่อสาร โดยการปฏิบัติจริงจากการพูด การฟัง การเขียน ทำให้เด็กมีการพัฒนาทักษะชีวิต
- ให้ลูกอยู่กับดนตรี และจังหวะ ตัวโน๊ตสร้างทำนอง ดนตรีสร้างสมองเด็กผ่อนคลาย อารมณ์ได้ดีและยังทำให้เซลล์สมองทำง่ายได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
- ส่งเสริมให้ลูกออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ คล่องแคล่ว เกิดความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง ส่งผลดีต่อการเรียนรู้ของ ลูกช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมองลูกได้
สรุปแล้วความฉลาด เป็นส่วนหนึ่งติดตัวมาตั้งแต่เกิด ถือว่าเป็นต้นทุนที่มีมาไม่เท่ากัน แต่อีกส่วนหนึ่งได้จากประสบการณ์การเรียนรู้เพิ่มเติม โอกาสในการฝึกฝน การให้ความสำคัญ รวมถึงสภาพสังคม ณ ขณะนั้นด้วย พ่อแม่คือคนสำคัญที่สุดที่จะช่วยส่งเสริมให้ลูกได้รับสารอาหารบำรุงสมองและการเลี้ยงดู อย่างใส่ใจ เพื่อเพิ่มพูนความฉลาดสมวัยให้กับลูก
(รูปภาพเพื่อการโฆษณา )
เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team