คนจนเฮ!! ครม. เห็นชอบจ่ายเงินช่วยเหลือ 1.5-3 พันบาท เริ่ม 1-30 ธ.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สั่ง ขรก.ทุกกระทรวง จัดสัมนาในประเทศ ย้ำ พร้อมดูแลทัวร์ถูกกฎหมาย พร้อมเห็นชอบขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 5-10 บาทตามข้อเสนอของกระทรวงแรงงาน ส่วนของขวัญปีใหม่จากรัฐให้รอการประกาศอีกครั้ง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการเพิ่มรายได้ให้ผู้ที่มีรายได้น้อย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอว่า ขอร้องว่ามาตรการดังกล่าวอย่าใช้คำว่ารัฐบาลแจกเงิน ถือเป็นมาตรการช่วยเหลือให้กับผู้มีรายได้น้อย ตามที่เราเคยประกาศไว้แล้วให้มีการไปขึ้นทะเบียนสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย วัตถุประสงค์เพื่อต้องการดูแลประชาชนที่มีอาชีพอื่น ๆ ด้วยนอกเหนือจากเกษตรกร ซึ่งเรื่องนี้เป็นการทำต่อเนื่องจากมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งได้ทำมาแล้วหลายครั้ง ตนจึงมีความเป็นห่วงประชาชนที่มีอาชีพอื่น ๆ ด้วย จึงได้ดำเนินการต่อเนื่องสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และมีมาตรการอื่นออกมาอีก เช่น การดูแลค่าใช้จ่ายการเดินทาง การใช้ตั๋วร่วม รวมทั้งการเชื่อมโยงการขึ้นรถเมล์ และรถไฟฟรี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกคน ซึ่งทั้งหมดมี 8 ล้านคน โดยมีเกษตรกรรวมอยู่ด้วย และได้รับการช่วยเหลือไปแล้ว ประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งจะได้รับการช่วยเหลือสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท และผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,001 บาท ไม่เกิน 1 แสนบาท จะได้รับเงินช่วยเหลือ 1,500 บาท ตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ ซึ่งได้มีการตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการจ่ายเงินให้ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือรัฐบาลจะมีอย่างต่อเนื่อง
นายกฯ กล่าวว่า สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น แน่นอนว่าเมื่อมีเงินลงไปก็จะมีการใช้เงินกันมากขึ้น จะเกิดกระบวนการตั้งแต่ผู้บริโภคถึงผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายก็จะเกิดการใช้จ่ายเงินในระบบมากขึ้น ในส่วนของมาตรการวันขึ้นปีใหม่นั้น จะมีการกำหนดในหลาย ๆ มาตรการซึ่งต้องรอฟังอีกครั้ง ว่าในช่วงปีใหม่จะมีอะไรออกมา ทั้งเรื่องการจับจายใช้สอย การท่องเที่ยว การใช่จ่ายเงินในการซื้อของ จะมีการประกาศออกมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบตามข้อเสนอของกระทรวงแรงงานในการเสนอให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 69 จังหวัดทั่วประเทศ 5-10 บาท ซึ่งเป็นการทำงานของคณะกรรมการพิจารณาในเรื่องนี้เสนอขึ้นมา ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามที่เสนอขึ้นมา และถึงแม้ว่าจะไม่มาก แต่ถือเป็นกำลังใจก่อน เนื่องจากเรายังมีเศรษฐกิจเดิม ๆ อยู่รายได้ยังเพิ่มขึ้นไม่มากนัก การจะปรับขึ้นหรืออะไรก็ตามต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการด้วย ถ้ามองซีกเดียวก็ไปไม่ได้ทั้งหมด การทำงานต้องคำนึงถึงความสมดุลด้วย และเมื่อไปอีกสักระยะเวลาหนึ่งก็อาจจะได้เพิ่มมากขึ้นกว่านี้ แต่สิ่งที่จะได้คือ มาตรการการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ถ้าได้ลงทะเบียนไว้ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือด้วย
นายกฯ กล่าวต่อว่า ช่วงปีใหม่นี้ขอให้ทุกหน่วยงานทุกกระทรวงมีเรื่องการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น การจัดสัมมนาถ้าเป็นไปได้ขอให้จัดในประเทศ ขณะเดียวกันเราจำเป็นต้องเอานักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยมากขึ้นในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่เพราะเป็นช่วงวาระพิเศษ ฉะนั้นจะติเตียนใครมากไม่ได้ ทุกคนพยายามเต็มที่แล้ว และขออย่าไปพูดเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญ เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดขึ้น วันนี้ต้องพูดถึงทัวร์ที่ผิดกฎหมายกับถูกกฎหมาย ใครทำถูกเราจะเข้าไปช่วยเหลือ ดูแลให้มีประสิทธิภาพ
ขณะที่พ.ต.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในมาตรการการช่วยเหลือคือ 1.สำหรับผู้ที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี รัฐบาลมอบเงินช่วยเหลือให้ 3,000 บาท โดยมีผู้ที่ลงทะเบียนจำนวน 3.1 ล้านคน 2.ผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,001 ขึ้นไปแต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี รัฐบาลมอบเงินช่วยเหลือให้ 1,500 บาท จำนวน 2.3 ล้านคน ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 12,750 ล้านบาท โดยจะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 1-30 ธ.ค. 2559 ผ่านบัญชีธนาคารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ออมสิน และกรุงไทย ตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ สำหรับผู้ที่มีบัญชีมากกว่า 1 บัญชีจะโอนเข้าบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวล่าสุด และสำหรับผู้ที่ไม่มีบัญชีให้ไปเปิดบัญชีในสาขาที่ลงทะเบียนเพื่อรับเงิน
ที่มา : matichon